12.28.2557

รีวิว : Estée Lauder Perfectionist Youth-Infusing Makeup SPF 25

สวัสดีค่าาา ฮัลโหลๆ วันนี้ฤกษ์งามยามดีไอซได้มาอัพบล็อกอีกครั้ง
ปกติจะ feed ใน facebook อย่างเดียวเลย ไม่ค่อยได้เขียนบล็อกเป็นเรื่องเป็นราว
พอดีว่าช่วงก่อนหน้านี้ไอซยุ่งๆอะค่ะ (ชั้นเห็นแกยุ่งตลอดเวลา... lol)
โอเค เอาเป็นว่า เรามาระเริ่มการระรีวิวเลยละกัน

วันนี้ไอซจะรีวิว Estée Lauder 
Perfectionist Youth-Infusing Makeup SPF 25
เป็นรองพื้นรุ่นใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์ค่ะ (เค้าให้มาลอง คริคริ)


โอเค ถ้าแค่อ่านจากชื่อเนี่ย...
Perfectionist >> มันจะสวยเป๊ะแบบว่าเพอร์เฟ็กต์ เนียนกริบ ไร้ที่ติ
Youth-Infusing >> เติมความเด็กให้กับผิวเราด้วย 
Makeup >> เอาไว้ใช้แต่งหน้า
SPF 25 >> มันจะช่วยเรากันแดดไม่มากก็น้อย


แล้วมันเป็นจริงอย่างที่ชื่อมันบอกไม๊ ?

Perfectionist >> เห้ยย มันก็ไม่ใช่เล่นๆนะ มันก็ทำให้ผิวนวลเนียนขึ้นมากเลย 
คือ ต้องบอกก่อนว่าช่วงนี้ไอซไม่ได้เป็นสิวหรือมีรอยอะไรมาก (ใช้คำว่า ช่วงนี้...)
มีรอยกระจางๆและก็รอยสิวจางๆนิสหน่อย ใช้รองพื้นอันนี้แล้วถือว่าโอเคเลย
ทุกอย่างหายไป โอเค รู้เรื่อง แต่ถึงขั้น Perfectionist เลยไม๊ คิดว่ายังกว่านี้ได้อีกนะ
คือ ทุกอย่างยังเห็นเป็นผิวอยู่ ยังมีความเป็นธรรมชาติ เป็น Medium Coverage
ถ้าจะให้ Perfectionist ตรงใจไอซ ต้องเป็นแบบ Full Coverage เนียนกริบ!
(คหสต. ความเห็นส่วนตัวนะครัช 555 
บางคนอาจจะคิดว่านี่คือ Perfect สำหรับชั้นแล้วก็ได้งายยย.. )


Youth-Infusing >> นี่คือจุดที่วัดผลไม่ได้ แต่เป็นความรู้สึกทางใจอย่างแรง
บอกเลยว่าไอซอะ ทารองพื้นทุกวัน ประหนึ่งว่าเป็นส่วนหนึ่งของ skincare
ซึ่งเจ้ารองพื้นตัวนี้เนี่ยตอบโจทย์ไอซมาก เพราะมันมีส่วนผสมของซีรั่มบำรุงผิวด้วย!
คือดี คือมีช่วงนึงพยายามตามหาและก็ไม่เจอ และก็ล้มเลิกไป แต่นี่... มันมี นี่ไง !!!
แต่ถามว่ารู้สึกว่าถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการบำรุงไม๊.. ก็ไม่นะ (คือไม่รู้สึกน่ะ)
มันก็คงไม่ได้เอ็ฟเฟ็กต์อะไรมากถึงขั้นที่เราจะรู้สึกได้ 
แต่แค่ใช้แล้วมันไม่ช่วยทำร้ายผิวก็ดีมากพอละ
ซีรั่มที่ผสมในเนื้อรองพื้นก็คือ Perfectionist Serum
(ช่วยให้ผิวเฟิร์มกระชับ เน้นเรื่องริ้วรอย 
ถือตนว่ายังเด็ก ยังไม่มีริ้วรอย เลยไม่รู้สึกและเลยไม่แคร์... เด๋วคอยดูแก่นะ TuT)
เป็นญาติพี่น้อง ไลน์เดียวกันกับตัวนี้


Makeup >> ใช้แต่งหน้า อันนี้เคลียร์ แต่ก็อย่างที่บอก มันช่วยบำรุงด้วย
(ข้อนี้จะมีทำไม ฮะพาดี้ ฮึ้ยยยยย ?!?!?!?!?!)

SPF 25 >> มันช่วยกันแดด อุ่นใจได้ระดับนึง
ถ้าทาอันนี้อย่างเดียวโดยไม่ทากันแดด
เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในที่ร่ม พบเจอแดดน้อยๆ แต่.. ไม่แนะนำนะคะ !!!
แนะนำว่า ไม่ว่าจะยังไงก็ควรจะทากันแดด ดูตัวที่มี PA+++ ด้วย
อะ เดี๋ยวเรื่องนี้ค่อยหาเวลามาว่ากันอีกที ครั้งนี้ข้ามไปก่อนละกัน 
(อยากรู้ต้องติดตาม 555)

โอเค จบไปในส่วนของชื่อ OMG นี่แค่ชื่อเองหรอ 5555
มาดูตอนใช้ลงไปบนหน้าบ้างง (อย่าตกใจนะ ไม่มีคิ้ว lol)
ทั้งหน้า ครั้งนี้ไอซใช้ทั้งหมด 2 ปั้มถ้วนนะคะ


ก็อย่างที่บอกว่าช่วงนี้หน้าดี (กริ๊ดดๆๆ มีความสุข 555)
ก็เลยจะไม่ได้มีรอยอะไรให้เห็นเด่นชัดมาก 
แต่ก็จะมีตรงช่วงหน้าผาก กะตรงปลายจมูกนะ แดงๆหน่อย
สังเกตุได้ว่า โดยรวมดูนวลละมุนขึ้น ผ่องขึ้น
สีดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น

 ใกล้ๆเข้าไปอีก เห็นไม๊ว่ามีกระๆ
เห็นไม๊ว่าจางลงๆๆ 
และเห็นไม๊ ว่ายังดูเป็นผิวอยู่ :3


แล้วในเรื่องของประสบการณ์การที่ได้ลองใช้ล่ะ?
ไอซจะแบ่งเป็นหัวข้อๆ (ตาม คหสต.) นะคะ
  • สีสัน / เฉดสี 
สีที่ไอซได้มาลองใช้คือ #1W1 Bone เป็นโทนสีขาวเหลือง 
จริงๆอยากได้สีเข้มกว่านี้ เพราะปกติไอซไม่ชอบใช้รองพื้นขาวมาก ชอบใช้ให้เข้มกว่าผิวหน่อย
แต่ได้มา ก็อะ โอเคๆ ลองดู ปรากฎว่า...
อู้หูยยยยย สีดีมาก เข้ากับผิวไอซสุดๆ พอดีแบบเป๊ะๆๆเลย 
ซึ่งจริงๆแล้ว เค้าก็มีเฉดสีให้เลือกหลากหลายนะ เท่าที่ทราบมา
ถ้าเกิดจะไปเลือกสีให้เหมาะกับตัวเอง ก็แนะนำว่า 
ให้เลือกใช้สี undertone ที่เหมาะกับตัวเอง
อย่างไอซ ค้นพบแล้วว่าชอบ undertone เหลือง อย่ามาชมพูนะ ไม่ชอบ
(อันนี้ก็ คหสต. อีกเช่นกันนะคะ เรื่องความชอบนี่ สต. มากๆ แล้วแต่บุคคล)

ฝั่งซ้ายคือลงรองพื้นแล้ว จะเห็นว่าหน้าค่อนข้างนวลกว่า เหลืองกว่า
ไอความเหลืองนี่มันดีตรงที่ว่า มันจะทำให้รอยแดงดูแดงน้อยลงค่ะ
ดูผิวแบบว่า ไม่อ่อนแอ :3

  • ระดับการปกปิด
ไอซว่ามันคือ Medium Coverage ปกปิดปานกลาง ที่ยังคงให้ความเป็นธรรมชาติ
ริ้วรอยเบาๆ เอาอยู่หมด เพิ่ม Coverage ได้นิสหน่อย

  • เนื้อสัมผัส
เป็นเนื้อฟลูอิดที่ไม่เหลวมากแล้วก็ไม่หนืดมาก ถือว่ากำลังดี 
เกลี่ยง่าย แค่ใช้นิ้วก็รู้เรื่อง
พอทาลงไปบนผิวจะให้ความรู้สึกหยุ่นๆแบบเหมือนมีอะไรมาเคลือบคลุมผิว
เป็นแบบแอบ Matte แต่จริงๆแล้ว Moist อธิบายยากแฮะ ><
แต่คือจะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นบนผิวน่ะ 
ซึ่งพอรู้สึกอย่างงั้น (สำหรับไอซ) ก็แปลว่าต้องทาแป้งทับอีกที

  • กลิ่น
เนื่องจากมันมีกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจน ก็เลยไม่พูดถึงไม่ได้
ไอซคิดว่ากลิ่นมันเหมือนกลิ่นขนมนะ แบบคาราเมลๆ หวานๆ อะไรแบบนี้
แต่ให้เพื่อนคนนึงลอง เค้าบอกว่าไม่ชอบกลิ่นเลย บอกว่าเหมือนเป็นกลิ่นสังเคราะห์ 
ก็... เลยจะบอกว่า ไปดมกันก่อนจะซื้อโน๊ะ ชอบไม่ชอบยังไงก็จะได้รู้กัน

  • ติดทน / ไม่เยิ้ม
ไม่ถึงกับเยิ้ม แต่เกือบเยิ้มละ ซับหน้าปุ๊ปก็กลับมาปิ๊งใหม่
(ไอซผิวผสมนะคะ ช่วงทีโซนและกลางๆหน้าจะมัน)
สำหรับคนที่ผิวมันมากก็อาจจะไม่ค่อยปลื้ม
ความติดทน อยู่ในระดับปกติ สำหรับการใช้ชีวิตปกติ ก็จากเช้าถึงเย็นได้เลย
ระดับความเด้งก็ลดลงเรื่อยๆตามกาลเวลา ตามสภาพ

  • ระดับความพึงพอใจทั่วไป
โดยรวมแล้วถือว่า โอเคเลย ถ้าให้ไอซให้คะแนน ไอซให้ 8.5/10
คือ เนื้อสัมผัสมันดีนะ แต่ไอซชอบให้มันรู้สึกหายไปเลยกว่านี้มากกว่า
อันนี้พอทาแล้วมันรู้สึกหยุ่นๆก็เลยแบบว่า ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่
แต่สำหรับบางคนอาจจะชอบความรู้สึกนี้ก็ได้นะ (คิดว่าคนผิวแห้งอะ รักเลยชัวร์ๆ)
แล้วก็ผลลัพธ์ผิวที่ได้ก็ถือว่าดีทีเดียว แต่ก็ยังมีแบรนด์อื่นๆที่ทำได้เช่นกัน
และในเรื่องของราคา ปริมาณ 30 มล. ราคา 1950 บาท ก็ประมาณนึงเลยทีเดียว
รวมๆแล้ว ก็เลยได้คะแนนไปประมาณนี้ฮะ


วันนี้ก็ ขอจบไว้เพียงเท่านี้ 
ไว้คราวหน้าได้อะไรมาลองใหม่ จะเอามารีวิวให้ดูกันอีกนะครัช
ไอซรีวิวไม่ครบถ้วนตรงไหนยังไง คอมเม้นต์บอกกันได้เลยนะคะ
ชอบอ่านคอมเม้นต์มากๆๆๆๆๆ ^0^ <3

xxx
 P  A  D   I   E 

9.30.2557

รีวิว : 12 Plus Colorista Japan

ฮาโหล วันอังคาร สีชมพู
วันนี้เราเลยมาอัพเดทเมกอัพแบบสีชมพูๆน่ารักๆให้ดูกัน
กับคอลเลกชั่น Colorista Japan จาก 12plus
อ๊ะ บางคนได้ยินชื่อยี่ห้อ อาจจะมีการลังเลว่า เอ๊ะ จะดีไม๊ยังไง หน้าชั้นจะโอเคกะของรึป่าว
ขอบอกเลยว่าาาา เคยคิดอย่างงั้นเหมือนกัน
จนกระทั่งวันนึงได้ลอง “แป้งจิ๋ว” ของ 12plus ราคา ไม่ถึง 40 บาท omg (เราใช้สีม่วงนะ)
นั่นแหละ คือตอนนั้นซื้อมา เพราะเห็นมันเล็กดีและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือ 12plus 
และพอรู้ก็เฮ้ยยย คือ ดี อะ คือ ไม่อยากเชื่อ (แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะลองใช้แล้ว 555)



เอาหล่ะ เข้าเรื่องไม๊ยังไง ?
ประเด็นคือ 12plus เค้าส่งคอลเลกชั่นใหม่อันนี้มาให้ลองล่ะ
ก็เลยจัดซะหน่อย จัดเป็นลุคชมพู๊ ชมพู เหมาะกะวันอังคารสีชมพู (และวันอื่นๆที่อยากชมพูด้วยก็ได้ 555)
โดย ผลิตภัณฑ์ 2 ชิ้นนี้ คือสิ่งหลักที่ไอซใช้ในลุคนี้



ตลับสีขาวนี้ชื่อว่า wink powder หรือ แป้งวิ๊ง
ตั้งชื่อมาดีมากเลย ไม่ต้องถามต่อเลยนะว่าใช้ทำอะไรได้ ก็ใช้ทาหน้าให้หน้าวิ๊งยังไงล่ะ
ถามว่า วิ๊งไม๊ ตอบเลยว่าวิ๊งง เนื้อแป้งมีเกล็ดวิ๊งๆที่หยอกล้อกะแสงผสมอยู่
ดังนั้น คำแนะนำของไอซคือ อย่าใช้ทั้งหน้าเลย ใช้แค่จุดสะท้อนแสงก็พอ
(จุดสะท้อนแสง = บริเวณโหนกแก้ม , สันจมูก , ปลายคาง เป็นต้น)
มันก็จะช่วยให้บริเวณนั้นสว่างและก็สะท้อนแสงออกมาเป็นให้หน้าดูวาวๆได้ดีขึ้น



ส่วนตา ไอซใช้พาเลลต์สีชมพู-น้ำตาลล่ะ มันชื่อว่า multi eye shadow 
(ช่วงนี้ชอบแต่งตาสีชมพูๆ คิดว่าตัวเองเป็นคนหวานๆแบ๊วๆอะนะ :P)
โดยใช้สีชมพูตรงกลางทาทั่วเปลือกตาเลย สีชมพูอันนี้ชมพูน่ารักนะ ไม่แดง ไม่แปร๋น เกินไป โอเคเลย เป็นเนื้อวาวๆ
แล้วก็ใช้สีน้ำตาลไล่ๆไล้ๆมาจากตรงหาตา ให้เป็นเบ้าเบาๆพอเป็นพิธี แล้วก็ทาลงมาตรงขอบตาล่างถึงประมาณกลางๆตา
จากนั้นก็ใช้สีขาวมาทาบริเวณหัวตาให้สว่างขึ้นมา ทำให้หน้าสดใสขึ้น 2 ระดับ
และขอบอกว่าสีมันอยู่ถึงเย็นด้วยนะไม่ใช่เล่นๆ มีจางลงนิดหน่อย แต่ยังเหลืออยู่อะ !!!



เสร็จแล้วก็ปัดแก้มสีชมพู๊ชมพู แล้วก็ทาลิปสติกสีชมพู๊ชมพูด้วย
ก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพของลุคนี้
บอกเลยว่าของ 2 ชิ้นนี้เนี่ย คุ้มจริงอะไรจริง 
แป้งวิ๊ง ราคา 209 บาท และอายแชโดว์ ราคา 179 บาท
จริงๆมีอีกหนึ่งอย่างที่อยากใช้ด้วยแต่มันพึ่งตามมาที่หลัง ><
ก็คือ อายไลเนอร์ super big eyeliner 
(คือเคยใช้อายไลเนอร์ของ 12plus เหมือนกัน คือมีคนบอกว่าดี เลยซื้อ และก็เออ ดีจริง)

*ของดีไม่ดีนี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาอย่างเดียวนะ ไม่ใช่ว่าแพงแล้วจะดี ถูกแล้วจะไม่ดีเสมอไป อันนี้จำไว้เลย*


วันนี้ก็... จบแล้วล่ะฮิๆ
ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าน้าา บ๊ายบายยย บั๊ยบัยยยย 

xxx

PADIE

9.14.2557

พาดี้ ขี้เห่อ : SOAP & GLORY

พาดี้ ขี้เห่อ !!!
ตอน SOAP & GLORY



วันนี้ขอเห่อ Soap and Glory แบรนด์จากอังกฤษที่อยู่ใน Boots
เค้ามีของขายมานานละ เป็นพวกสรรพสิ่งให้ห้องน้ำ สบู่ สครับ ครีม โลชั่น ไรงี้
(คือชอบกลิ่นหอมของไลน์ Sugar Crush นะครัช มีทั้งสครับและสบู่ คริ)
นั่นแหละ แล้วทีนี้ เค้าก็มีเมกอัพด้วยไง แล้วมันก็เดินมาสู่ประเทศไทยแล้วเป็นที่เรียบร้อย
จริงๆก่อนหน้านี้ก็มีอยู่แล้ว แต่ไม่ครบครันดั่งใจเท่าไหร่
มีแค่ลิป motherpucker หรือที่ส่วนตัวเรียกว่า ลิปปากสั่น
เพราะทาแล้วมันรู้สึกถึงพลังงานบางงานที่สั่นอยู่ที่ปาก เกินเย็น เกินซ่า แต่เป็นสั่น !!!
แล้วก็มีอะไรจุบจิบอีกนิดหน่อย แต่นี่... คือมาเต็มมมม มาครบ มาแน่น
และขอให้ดูชื่อ แต่ละอันนี้ คิดมาแล้วอย่างดี โดยเจ้าของภาษา (สมกับมาจากอังกฤษจริงๆ ฮ่ะๆๆ)
เอาล่ะ มาดูกันเลยดีกว่าาา


จากความขี้เกียดหรืออันใดก็มิทราบ.. ทำให้ไม่ได้ถ่ายแยกแต่ละชิ้นไว้ ก็ไล่ไปทีละอันละกันโน๊ะ

ACHERY brow tint and precious pencil
อันนี้ ปลื้มมมมมมมมมมมากกกกกกก ขอให้เจ็ดดาว เต็มห้าดาว ปิ๊งงๆๆๆๆๆๆ
คือ พื้นฐานเป็นคนชอบที่เขียนคิ้วเป็นลิควิด รู้สึกว่าชัดเจนดี เขียนเป็นเขียน เส้นเป็นเส้น คมเป็นคม คิ้วเป็นคิ้ว
และอันนี้ก็มีที่เขียนที่เป็นลิควิด สีดี หัวแปรงได้ แถมยังมีแบบเนื้อดินสอมาให้ด้วยอีก เริ่ด
วิธีที่ไอซใช้ก็คือ ใช้แบบลิควิดเขียนตั้งแต่กลางถึงปลายคิ้ว (ให้คมกริบ)
แล้วก็ใช้แบบที่ดินสอตรงหัวคิ้ว เกลี่ยให้ดูฟุ้งๆได้ แลดูเป็นธรรมชาติ
ราคา 390 บาท (ฮัลโหล ได้ข่าวว่าลดอยู่.. เอ๊ะ หรือยังไง หรือเลิกลดแล้ว?  แต่คือดี)

อันต่อมา
SUPERCAT extreme eyeliner pen
คือ อายไลเนอร์สีดำอ่อน (คือมันไม่สนิทอะตัว คือดำอ่อนๆง่ะ)
เนื้อบางเบาด้วย คือแบบดำแบบ transparent น่ะ สีกึ่งแมตต์กึ่งวาว
หัวเป็นฟองน้ำเหมาะกะคนที่ชอบเขียนเส้น หย่ายยย หย่ายยยยย
แต่ถ้าให้เดาจากชื่อน่าจะเกิดมาเพื่อคนที่ชอบเขียนตาแบบ แคทอาาายยยส์ (นี่คิดเอง)
ราคา 400 บาท

THICK & FAST super volume mascara
จากชื่อ คิดว่าปัดมาแล้วมันจะต้องหนาเป็นก้อนแน่นอน เพราะมันบอกว่า THICK
แต่เปล่าจ้าา โนเลยย คือ ปัดมาแล้วเป็นธรรมชาติมากกก
ขนตาเรียงเส้นสวยไม่จับตัวเป็นก้อน 
คือทำให้ขนตาเส้นเรียวบางของเรา หนา ขึ้นนั้นเองนะฮะ โอเคเลย
แปรงใหญ่ดี เป็นที่มาของ FAST สิ่นะ ปัดๆ เสร็จแล้ว เพราะแปรงใหญ่มั่กกก
ราคา 450 บาท 

SEXY MOTHER PUCKER !!! gloss stick
หึหึ ชื่อมันเด็ดเหลือเกิน พิมผิดตัวเดียวนี่ไม่ได้เลยนะ
เค้าบอกว่า มันเป็น 3D volume lip shine นะจ๊ะ
คือทั้งเด้ง แบบเรียวปากอวบอิ่มและยังไชน์ แวววาวอีกต่างหาก
เท่านั้นไม่พอ สียังสวยอีก เป็นแบบดินสอ พกพาง่าย หมุนๆขึ้นมา ทาได้เลย
ราคา 500 บาท

สุดท้าย
KICK ASS instant retouch pressed powder
อันนี้ก็คือ ดี !!! เหมาะสำหรับใช้กับแปรง เอาไว้เติมระหว่างวัน
ทำให้หน้าที่เมือก เอ้ย หน้าที่แลดูเหนื่อยล้า กลับสดใสมากยิ่งขึ้น
ดังคำเคลมของเค้าที่ว่า instant retouch อื้อหือ ชอบบบ
สีก็สวย เอ๊ะไม่แน่ใจว่ามีหลายสีหรือเปล่า แต่น่าจะมีสีเดียวแหละ
มันจะเป็นเป็นเนื้อ + เหลืองนวลๆ ซึ่งไอความเหลืองของมันนี่แหละ คือความดีงาม
เพราะแป้งโทนเหลืองจะช่วยให้หน้าสดใส (จำไว้นะคะเด็กๆ) นั่นแหละค่ะ จบ 
ราคา 600 บาท


เอาหล่ะ !!!
และเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการตั้งใจทำเพจ ครั้งที่เจ็ดล้าน TuT
เราจะขอ “แจกของ” 3 อย่าง นั่นก็คือ 
SUPERCAT extreme eyeliner pen
THICK & FAST super volume mascara 
และ SEXY MOTHER PUCKER !!! gloss stick (สี Nudist)
ให้ใครก็ได้ที่กดไลค์เพจ icepadie กดไลค์รูปนี้ และคอมเมนต์อะไรซักอย่างที่อยากจะบอกไอซ แค่นั้น !!!
ผู้โชคดีสุ่มเลือกโดยดิฉันเอง ยังไม่กำหนดวันหมดอายุ (วันเลิกเล่น) และไม่กำหนดอะไรเลย 
ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ

ถ้าแชร์ต่อให้เพื่อนมาร่วมสนุกจะน่ารักมาก สัญญาว่าจะมีอะไรมาให้เล่นอีกเรื่อยๆ คริๆ  จุ๊บ

8.31.2557

รีวิวต่อขนตาถาวร ภาค 2

ฮัลโหลลลลลล...
ก็ ไม่มีอะไรมากกกกกก
แค่จะมาอัพเดทว่า ไปเติมขนตามาล่ะ

ครั้งนี้ไอซไปเติมที่ร้าน Panipa สาขา Sathorn Thani ค่ะ
(เดินทางไปง่ายมาก คือ ลงรถไฟฟ้าช่องนนทรีแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ ร้านอยู่ชั้นใต้ดิน)
ที่ตัดสินใจไป “ลอง” ที่นี่ เพราะว่า “ราคาน่ารักดี” คือ 10 บาท ต่อ เส้น

สภาพก่อนเติม



ทางซ้ายหลุดรุ่ยมาก เยอะกว่าฝั่งขวาสุด เหมือนหลุดร่วงอยู่ฝั่งเดียว แต่ก็ยังไม่แย่มาก เหลือเป็นช่อๆ 


ทางขวายังคงสวยงาม บางลงนิสหน่อย ซึ่งยังสวยอยู่ แต่ก็อยากเติมแล้ว 


ผลการต่อก็คือ...

ต่อขนตา รีวิว icepadie

ต่อขนตา รีวิว icepadie

ทาาดาาาาาา ~
ออกมาสวยงามตามคาดหวัง
รู้สึกว่าเส้นขนตาที่ใช้ของที่นี่จะหนากว่า (แข็งกว่านิดหน่อย) แล้วก็ “ดำเงา” กว่า 
เค้าบอกว่ามันคือ ไฟเบอร์ ค่าาา



ฝั่งทางซ้ายเติมไปทั้งสิ้น 80 เส้น (โอ้ววว โหวววว เยอะจุงส์)

ต่อขนตา รีวิว icepadie


ส่วนทางขวาเติมไปทั้งสิ้น 40 เส้นเองจ้าาา

ต่อขนตา รีวิว icepadie


ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีกนิด
(กำลังดี แอบมาทำตอนเช้าแล้วไปทำงานต่อ 
ร้านนี้เปิดตั้งแต่ประมาณ 8 โมงครึ่งเลยค่ะ แล้วปิดเร็ว)
ค่าเสียหายทั้งหมดสำหรับขนตาคือ 1,200 บาท ค่าา 
และก็เสียหายไปอีก 800 เป็นค่าเซรั่มบำรุงขนตา 


คือ พนักงานเค้าถามว่าเอาด้วยไม๊ ช่วยบำรุงขนตาให้แข็งแรง
ตอนนั้นแบบว่าสลึมสลือ เพราะพึ่งตื่น เลยตกลงปลงใจ เอามา 1 อัน
ดีไม่ดี บอกไม่ถูก เพราะขนตาปลอมชวิ้งมากตลอดเวลา
แต่ก็ใช้กับขนคิ้วและขนตาล่างด้วย — ให้ความรู้สึกดีทางใจมากกก

สรุป
ออกจากร้านด้วยขนตาสวยงาม พร้อมเซรั่มบำรุงขนตาอีก 1 อัน
เสียทรัพย์ทั้งสิ้น 2,000 บาทค่าา 

สวัสดี ^/\^

8.09.2557

รีวิวต่อขนตา เปลี่ยนไก่กาให้กลายเป็นหงส์ !!!

โอ้วววโหวววว ชื่อกระทู้เว่อออออร์มาก อลังการตระการใจสุดๆ lol
แหะๆ หลังจากห่างหายไปเนิ่นนานด้วยเหตุผลนานับประการ วันนี้พาดี้กลับมาล๊าาววว พร้อมสิ่งที่น่าสนใจยิ่งนัก... ซึ่งก็คือ “การต่อขนตาถาวร” !!! ทาาาาดาาา ~
คือ มีความเชื่อว่าการมีขนตาหนายาว งอนเด้ง ชวิ้งชวับ ย่อมทำให้คุณดูดีขึ้นได้แน่นอน (ไม่มากก็น้อย)
ขนก็เหมือนผมนั่นแหละ มีผมยาวนุ่มสลวย ก็น่าจะดีกว่าผมล้านสั้นกุด จริงไม๊ฮะ ? 
ปิ๊งป่องงง




  • มาพูดถึงข้อเท็จจริงและข้อควรรู้ของการต่อขนตา หรือที่เรียกกันว่า การต่อขนตาถาวร กันก่อนดีกว่า...

การต่อขนตาถาวร ก็คือ การเอากาวมาติดขนตาแบบเส้นต่อเส้น แทนที่จะติดขนตาปลอมแบบเป็นแผงๆที่ติดเช้า-เย็นถอด ต่อขนตาจะอยู่ยั้งยืนยงไปกับเรานานซักระยะ แล้วจะร่วงหลุดไปตามสภาพ หรือตามการผลัดขนตาตามปกติของร่างกาย (ประมาณ 3-4 สัปดาห์) นั่นเอง

  • สิ่งที่นำมาใช้ติดคืออะไร ?

อาจเป็นได้หลายอย่าง ทั้งไฟเบอร์ เส้นไหม เส้นขน ขนมิ้งก์ และอื่นๆ
บางร้านสามารถเลือกรูปแบบของการต่อขนตาได้ เช่น 
- แบบธรรมชาติ 
- แบบเซ็กซี่ (เน้นความยาวที่หางตา) 
- แบบดอลลี่หวานๆ (เน้นความยาวตรงกลางตา) 
และก็อาจเลือกระดับความงอนได้ด้วย
สำหรับไอซ สิ่งที่ควรพิจารณา ก่อนการเลือกร้านต่อขนตาที่สำคัญที่สุด ก็คือ "ความน่าเชื่อถือ” อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ควรได้มาตรฐาน ร้านสะอาดสะอ้าน ดูปลอดภัย ไว้ใจได้ ต่อมาก็อาจจะเป็น สไตล์ เช่น สไตล์โค-รง โคเรีย ญี่-ป่ง ญี่ปุ่นก็ว่ากันไป...

เอาหล่ะ แล้วก็ถึงเวลาที่ไอซไปลองต่อมาด้วยตนเองเสียที (หลังจากอยากมานาน แต่ไม่มีโอกาสได้ไป) 
เริ่มมมม !!!

ครั้งนี้ไอซไปต่อขนตามาที่ร้าน Novalash สาขา เซ็นทรัลชิดลม
ร้านนี้ไม่มีรูปแบบของขนตาให้เลือก ไม่ต้องคิดเองว่าจะยาวกลางตา เน้นปลายตา หนาบางแค่ไหน หรือว่าอะไรยังไง เพราะทางร้านเค้าจะประเมินให้และต่อตามความเหมาะสมเลจ โดยจะใช้เส้นขนในการต่อหลายขนาด สั้น-ยาว ต่างกันไป เอาให้พอดีพอเหมาะ แลดูเป็นธรรมชาติ ไม่เว่อร์วังเกินเหตุแน่นอน (พนักงานกล่าว)
แต่ก็สามารถเลือกความยาวได้นะ ว่าจะเอาแบบยาวเบอร์ 10 หรือยาวมากเบอร์ 12
ด้วยความเป็นพาดี้ แน่นอนว่า... เลือกแบบยาวมากเบอร์ 12 จ้าาา 555

  • ขั้นตอนก็คือ (ง่ายมาก)

หลับตา…
หลับตา…
หลับตาา...
หลับไปเลยยย...
หลับไปยาวๆได้เลย...
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง
ขณะนั้นพนักงานก็จะบรรจงติดเส้นขนไฟเบอร์งอนๆเข้าไปกับขนตาของเราเส้นต่อเส้น 
ลืมตาขึ้นมาปุ๊ป ปิ๊งงงง ขนตาสะพรึงขึ้นมาทันที !!! OMG คือ ชอบมาก
แล้วก็เดินออกจากร้านด้วยขนตาฟรุ้งฟริ้งมุ้งมุ้งของเราได้เลยย ง่ายสุดๆ




อ้อๆๆ จ่ายตังก่อนๆๆ
ที่ Novalash ต่อใหม่ทั้งหมด ราคา 2,600 บาท
Refill (ไม่จำกัดจำนวนเส้น เอาจนสวยเหมือนเดิม) ราคา 1,450 บาท
ถ้าเป็น member ค่าสมัคร 1,000 บาท ลดได้ครั้งละ 20% ใช้ได้นาน 1 ปี

  • มาพูดถึง ชีวิตหลังจากที่ขนตามุ้งมิ้งอยู่ที่ตาเราอย่างถาวรแล้วกันบ้าง

ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 1 อาทิตย์ ขนตายังคงสวยงามเช้งกระเด๊ะอยู่ แต่ประสบปัญหาขนตาหลุดร่วงออกมาเป็นระยะๆ พยายามส่องดู ก็มีทั้งแบบที่เส้นใยไฟเบอร์หลุดออกมาอย่างเดียวและแบบที่ขนตาของเราหลุดร่วงออกมาด้วย (ฮือออ... ร้องไห้เบาๆ)
และที่บางคนบอกว่าต่อขนตาถาวรแล้วขนตาร่วงเยอะนั้น สันนิษฐานว่าจริงๆอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่พอเราไปต่อปึ๊ป ขนมันเส้นหนาและเห็นชัด พอมันร่วงก็เลยเห็นแบบจะๆ ต่างจากขนตาจริงๆของเราที่เส้นบางเบากว่า เวลาร่วงก็เลยไม่ค่อยได้สังเกตุเห็น ก็เป็นได้...
แล้วที่บอกว่าพอเลิกต่อแล้วขนตาน้อยลง ก็สันนิษฐานอีกว่า อาจจะเป็นเพราะความเคยชินที่ตอนต่อมันหนานุ่มฟูมาก พอเอาออกก็เลยรู้สึกไปว่ามันช่างเหลือน้อยเหลือเกิน ก็เป็นได้เช่นกัน...
แต่หนึ่งอย่างที่สังเกตุเห็น (โดยไม่ได้สันนิษฐาน) คือ มีขนตาบางเส้นที่โอนเอนซ้ายขวา เหมือนเสียศูนย์ ดูผิดรูปไปบ้างนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่จะว่าไปก็ไม่ได้แย่มากมายอะไร ซักพักมันก็หลุดไปเองน่ะนะ 5555



ส่วนถ้าจะให้สรุปเป็นข้อๆ ก็ตามนี้เลยค่ะ...

ข้อดี
  • ประการแรก สวยตั้งแต่ตื่นนอน คือ ไม่ต้องทำไรมาก พอขนตามันหนาและยาวขึ้น มันเลยทำให้ดูเหมือนมีเส้นไลเนอร์บางๆที่ตาด้วย ประดุจว่าแต่งหน้าแม้ยามตื่นนอน
  • แต่งหน้าน้อยลง เพราะมันโอเคอยู่แล้ว ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับตามาก มันก็สวยของมันเอง แค่ทาแป้ง ปัดบลัชออน ทาลิป จบ!ประหยัดเวลาไปเยอะ
  • แลดูเป็นธรรมชาติ คือ ถ้าปกติเป็นสายติดขนตาปลอมอยู่แล้ว การต่อขนตาถาวร ให้ความเป็นธรรมชาติกว่ามาก (จริงๆ)

ข้อเสีย
  • ตอนล้างหน้าต้องระวังมากยิ่งขึ้น อะไรที่เป็น oil ก็ไม่ควรใช้ (ทุกวันนี้ใช้ PureViVi เป็นน้ำๆ)
  • ตอนล้างโฟมก็เหมือนกัน ต้องละมุนละม่อมนิสนึง (ปกติเป็นคนฮาร์ดคอนิดหน่อย ก็เลยต้องปรับตัวอยู่เหมือนกัน)
  • น้ำเข้าตาตอนล้างหน้า เพราะขนตามันหนานุ่ม น้ำเลยมากองๆที่ขนตาเยอะ อันนี้ไม่ค่อยโอเคเลย ไม่ชอบบ แต่ก็แก้ไขโดยการไม่ลืมตาแล้วเช็ดหน้าให้แห้งซะเลยย หึหึ
  • พอมันหลุดแล้วเริ่มเกิดเป็นช่องโหว่ เว้าๆแหว่งๆ มันช่างน่าหงุดหงิดเสียเหลือเกิน ยิ่งโดยเฉพาะสำหรับไอซที่เป็นคนชอบส่องกระจกระยะใกล้มากๆเป็นประจำด้วยแล้วนั้น พูดเลยว่าหงุดหงิด อยากต่อใหม่ๆๆๆ
  • นำมาซึ่งประการต่อไป คือ เปลืองตัง นั่นเอง 5555



โดยสรุป คิดว่า ก็อาจจะเติมๆต่อไปอีกซักระยะนึง เพราะว่าชอบจริงๆที่ตื่นมาแล้วมีขนตาสวยๆเลย ประทับใจมากกก แต่อีกซักพักก็อาจจะเบื่อหรือเปล่าไม่รู้ เบื่อแล้วก็คงเอาออก และก็คงไปให้ที่ร้านเอาออกให้ เพราะเคยอ่านมาว่า ถ้าเอาออกเองแล้วขนตาตัวเองจะหลุดออกมาด้วย no! จะไม่เกิดเหตุการณ์นั้นกะเดี๊ยนเด็ดขาด!


สุดท้ายนี้ ไอซมี Price List ของที่ต่างๆมาฝากกัน เผื่อใครกำลังสนใจและอยากไปลองต่อดูบ้าง ราคาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะทำให้เลือกตัดสินใจไปที่ไหนใช่ไม๊คะ ? สถานที่ตั้งก็เช่นกัน เพราะฉะนั้น เชิญชมค่ะ



Novalash
Siam Paragon 081-421-4333
Central Chidlom 094-780-4577 
Zen @ Central World 089-032-5542 
ราคา 2,600 บาท 
Refill 1,450 บาท 

Blanc
Central Plaza Rama 9 0-21012341
Gateway Ekamai 0-2108-2787
Mercury Ville Chidlom 0-2639-3652
ขนตาบน ราคา 2,200 บาท
ขนตาล่าง ราคา 990 บาท
ทั้งบนและล่าง ราคา 2,890 บาท
Refill 26 บาท / lash

Lash Boutique
A Square Sukhumvit 26 089-209-4262 
ราคา 1,700 บาท 

Brow Haus 
Siam Discovery 0-2658-0344 
ราคา 3,000 บาท / 10 lash


Tingle
All Seasons Place 0-2654-0176-7 
Esplanade 0-2660-9369
ต่อเป็นเส้น 10 บาท / lash

Panipa
www.panipa.com

ต่อเป็นเส้น 10 บาท / lash

2.07.2557

REVIEW nivea extra whitening skin therapy serum by PADIE

ฮัลลโหลวววว
วันนี้ไอซมารีวิว NIVEA extra whitening skin therapy serum ค่าา
และนี่คือวีดีโอ...
พึ่งทำเองครั้งแรก ตื่นเต้นชมัดด พูดอะไรประหลาดๆเต็มเลย 555



ก็อย่างที่พูดในคลิปไปนะคะ ไอเจ้าตัวนี้มันเป็นซีรั่ม มันก็จะบางเบากว่าครีมและโลชั่น
อาจไม่ให้ความชุ่มชื่นมากเท่าไหร่นัก
แต่ก็อาจจะให้ผลลัพธ์ทางด้านอื่นมากกว่าจากส่วนผสมที่เข้มข้นกว่า
(รูที่หลอดมันเล็กด้วย อาจหมายถึงว่า ไม่ต้องใช้เยอะก็ได้นะ... คิดเอง แหะๆ)

เวลาทาไปมันก็จะซึมเข้าไปในผิวได้รวดเร็วค่อนข้างดีเลยนะ
ไม่ลอยๆขาวๆอยู่บนผิว แล้วก็ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย

เค้าบอกว่ามันจะกระจ่างใสขึ้นได้ภายใน 14 วัน omg คือฟังดูเริ่ด
แต่ก็ยังไม่ได้ลองปฏิบัติดูว่าจริงหรือเปล่า
แต่อาจจะจริงก็ได้นะ เพราะมันมีสารกันแดดผสมอยู่ด้วย 
ทาอันนี้แล้วก็ออกไปใช้ชีวิตได้แบบเก๋ๆไม่ต้องกลัวแดด

และอีกหนึ่งอย่างที่ชื่นชอบและให้คะแนน (วิ๊งๆๆๆ) คือ กลิ่น
กลิ่นมันหอมมากกกกก หอมมแบบจริงจังง หอมจริงๆ หอมม ! รู้เรื่อง !

ส่วนสำหรับรายละเอียดจริงๆจังๆเกี่ยวกับค่า SPF กะ PA+++ จริงๆก็น่าสนใจ
จริงๆบางคนก็อาจจะรู้อยู่แล้ว บางคนรู้แล้วลืม หรือบางคนก็ไม่รู้จริงๆ
ไอทั้ง 2 ค่าเนี่ยจริงๆมันก็คือ 

SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor 
เป็นค่าที่จะบอกความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการปกป้องผิวหนังจากแสงแดด
เช่น ถ้าใช้ครีมกันแดดตัวหนึ่งที่มี SPF 33 หมายความว่า 
ถ้าปกติอยู่กลางแดดแล้วใช้เวลา 30 นาทีกว่าผิวจะไหม้
SPF 33 ก็จะช่วยปกป้องผิวให้ไหม้ช้าขึ้นได้ 33 เท่า 
ประมาณ 33 x 30 = 990 นาที (ตั้ง 16 ชั่วโมงแหนะ)
 ประมาณนี้...
และจริงๆแล้ว SPF สูงๆมันไม่ใช่ว่าจะดีเดอกว่าคนอื่นเท่าไหร่นักนะ
มันจะกันได้มากสุดๆก็ประมาณ 98 % คือ SPF 50
แตกต่างนิ๊ดดดเดียวจาก SPF 15 ที่ปกป้องได้ประมาณ 93 %

ส่วน PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA
ก็อย่างท่ีบอก คือการป้องกันรังสี UVA ได้ ได้ดี ได้ดีมาก ได้ดีมากสุดๆ ตามลำดับเครื่องหมาย +

ซึ่งถ้าผลิตภัณฑ์ไหนมันกันรังสีได้ทั้งอย่าง คือ มีทั้ง SPF และ PA
ก็ถือว่าเป็นผลติภัณฑ์ที่โอเคเลย
เหมาะกะสภาพภูมิประเทศที่มีพระอาทิตย์เจ็ดดวงแบบบ้านเรา

:D



ขอบคุณข้อมูลจาก www.loxtrade.com

1.19.2557

NEW LOOK !!!


สวัสดีจ้าาาา ^0^
วันนี้เราแบบสั้นๆเพื่อที่จะโชว์ "ลุคใหม่" วู้ฮู้วววววววว
คือ.. ไปตัดผมมา
เนื่องด้วยแบบว่าไว้ผมยาวมานานมากกกก พอจะตัดก็เลยเสียดาย เลยคิดว่าถ้าจะตัดทั้งทีเนี่ยต้องมีประโยชน์นะ
ก็เลยเป็นที่มาของการ "ตัดผมบริจาค" (ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง :)
ก็.. นั่นแหละ พอมีความตั้งใจดังนั้นก็เลยต้องสะสมผม (ให้มันยาวซักหน่อยน่ะ)
และพอมันยาวมากๆๆๆก็เริ่มถึงจุดที่มันทนไม่ไหวละ 
โอ่ยยย ยาวเกิ๊นนน จะทำอะไรก็ลำบาก มัดผมยางก็ขาด สระทีก็กว่าจะแห้ง (ซึ่งสระทุกวันด้วยนะ o_O)
เลยตัดสินใจว่า ตัดวันนี้เลยแล้วกัน !!!
ซึ่งปกติแล้วนั้น ไม่มีร้านประจำ เพราะไม่ค่อยเปลี่ยนลุคเท่าไหร่ จะเข้าร้านก็แค่แค่เล็มๆปลายผมให้มันไม่ยาวเกินไปเฉยๆ ไม่ต้องใช้ทักษะอะไร ไม่ต้องลุ้นมาก
พอมาวันนี้ที่อยากตัดแบบจริงจัง ก็เลยต้อง แรนด้อมร้านเอา..
(นี่คือ สภาพก่อนการตัดผม.. ยาวววววเชียะ)



สรุปคือ ตกลงปลงใจมาที่ร้าน MOGA @ the emporium (เพราะมาดูหนังพอดี และเดินผ่านร้านพอดี)
เป็นร้านตัดผมสไตล์ญี่ปุ่น มีคนญี่ปุ่นเป็นช่างด้วยนะ
ก็ไม่อะไรมาก เดินดุ่มๆๆเข้าไปในร้านเลย เพราะรู้สึกว่าชื่อร้านคุ้นๆ น่าจะดี
พนักงานที่นี่ก็ดีนะ ต้อนรับขับสู้ไปตามประสา แล้วเราก็ถูกส่งตัวไปนอนสระผมเลยย
เฮ้ยย มันเป็นน้ำอุ่นด้วยอ๊าาาา ตื่นเต้น 555
แล้วก็มีผ้าอะไรไม่รู้มาวางแหมะไว้ที่หน้าด้วย 
(คิดเองว่าน่าจะเป็นการบังแสง ให้มืดๆ จะได้ผ่อนคลาย.. ไม๊ ? ใช่ไม๊นะ ?)
ซึ่งสุดท้ายไอผ้านี้ก็กลายมาเป็นผ้าเช็ดผมเราในที่สุด (เอ๊ะหรือหน้าเราเป็นแค่ที่วางผ้า !?!?)



ช่างที่ตัดให้ไอซคราวนี้ชื่อว่า พี่แป้ง (ไม่ใช่คนในรูป พี่คนนี้คือคนสระผมให้ :3 )
เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่แอบเท่ๆ และก็ดูใจดี แหะๆ
สอบถามได้ใจความว่า พี่เค้าตัดผมมาแล้ว 13 ปี (โอ๊... ใจชื้นขึ้นมาหน่อยยนะ 555)
ตอนแรกกะๆไว้ว่าจะเอาความยาวซักประมาณแบาเลยๆไหล่ลงมา ตรงไหปลาร้าาไรงี้ แต่ไปๆมาๆ ยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยเผลอพลั้งปากพูดไปว่า แล้วแต่พี่เลยแล้วกันค่ะ เอาให้สวยก็พอ... เท่านั้นแหละ
"ฉับ" ต้นคอเลยจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา !!!
โอ้วว ม่ายยยย ช็อกไป 20 วิ...
คือ สั้นมากกกกก โอ้วมายยยก็อดดดดดด นี่คือเรียกว่าสั้นนะ สั้นอะ
มองหน้าตัวเองแล้วไม่คุ้นเลย หน้าเปลี่ยนไป และจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ชินตัวเองอยู่ดี หึหึ
(คุณพี่เสื้อขาว ผมประกายแดงคนนี้ล่ะ คือ พี่แป้ง มือเฉือนผม)



แต่ก็ดีน้าาา พอตัดไปตัดมาให้มันกลายเป็นทรง สุดท้ายมันก็ออกมาดีน่ะ 
แค่ไม่ชินกับความยาวที่เปลี่ยนไปอย่างมหาศาลแค่นั้นเอง
ในใจก็คิดไปว่า "เอาหน่าาา ผมยังไงก็ยาวใหม่ได้ ทำบุญๆๆๆๆๆๆ"
แต่ก็ช็อกจริงงง  ไว้ผมยาวมาประมาณ 6 ปีอะ ไม่เคยสั้นเลยย พอสั้นปึ๊บบใจก็หายเป็น ธรรมดา
อะ และนี่คือ ลุคใหม่ที่ได้มาจ้าาาาาาา



เปรี้ยวเลยย..
พึ่งรู้ว่า นี่แหละที่ผ่านมาท่ีคนชอบบอกว่าหน้าหวาน...  พึ่งเข้าใจวันนี้เลยนะเนี่ย
เพราะตอนนี้ไม่หวานเลย เปรี้ยวมวากกกกกก
เฮออออ ไม่เข้ากะชุดเสื้อผ้าที่มีอยู่เล๊ยยยยยย TuT
เอาน่ะ เปลี่ยนซะมั่งเนอะ หึหึ

วันนี้จบแล้ว แค่นี้แหละ แหะๆ บ๊ายบายยย ^u^



ปล. ใครทราบที่บริจาคเส้นผมแบบที่จะได้เอาไปใช้ประโยชน์จริงๆ ช่วยบอกกันหน่อยนะคะๆ ><

 

1.04.2557

happy new nails !!!

ฮี่ๆ นอกจากช่วงจะแฮปปี้นิวเยียแล้ววว เรายังแฮปปี้นิวเนลส์อีกด้วย >U<
เรื่องก็คือว่า (เฮ๊ย มีเรื่องด้วยหรอ ?!?!) 
ก็คือว่า หลังจากห่างหายวงการทำเล็บไปนาน (เคยบ้ามาตอนอยู่ปี 2 น่ะนะ ทำบ่อยเหลื๊อเกิน บ่อยจนเอาเงินไปดาวน์บ้านได้เลยมั๊ง... เพราะต้องกระแดะต้องเข้าร้านด้วยนะ ทาเองไม่ได้เลอะเทอะเละเทะตลอดดดดดด แต่ถึงเข้าร้านก็ยังทำเละได้อยู่ดี เช่น ยังแห้งไม่สนิทท่าไหนไม่รู้ นอนหลับไป ตื่นเช้ามาเป็นเล็บลายผ้าปูที่นอน อะร๊ายยย TuT)
และเล็บของไอซนี้ก็ช่างบอบบางเหลือเกิน เอะอะขาดเอะอะฉีกอยั่งกะเป็นกระดาษ โดยเฉพาะเวลาสระผมนะ อื้อหือ นึกว่าผมเป็นคัตเตอร์ เล็บขาดตลอด เซง !!!

(เข้าเรื่อง) ก็เลยได้หวนคืนวงการอีกครั้งด้วยการทาเล็บแบบ "สีเจล" ทาดาาาาาา !!!

มันก็ไม่ใหม่หรอกกก เข้าใจ 
มันมานานแล้ว ตื่นเต้นกันมานานแล้วว เข้าจายย
แต่... ก็คนมันพึ่งเคยทำอ๊ะ ><
อยากมาขอตื่นเต้นนิสนึง พร้อมยืนยันว่ามันดีจริงอะไรจริงนะเนี่ย !!!
คืออออ มันจะไปเคลือบเล็บ (บางๆ) ของเราให้หนาขึ้น ประดุจหนึ่งว่าต่ออะคริลิคเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะ เปนแค่ยาทาเล็บ
และมันก็สามารถทาสีทาเล็บอื่นๆทับลงไปได้ โดยที่เวลาล้างออกแล้วก็ยังเปนสีเจลนั้นๆอยู่เหมือนเดิมด้วย !!! โอ้ว แม่เจ้าจ๊อชชชช นี่ไง มันก็คือเหมือนการเคลือบอะคริลิกดีๆนี่เอง จริงๆนะ (ตอนที่เคยทำมันเวิร์คมาก นี่ก็เลยดูเหมือนจะเวิร์คกว่าด้วย เพราะถูกกว่าาา อาจจะไม่มาก แต่ก็ถูกกว่าอะนะ)
นอกจากนี้ มันก็ยังมีสีให้เลือกมากมายยยยย จนเลือกไม่ถูก :3 (อันนี้แล้วแต่ร้าน) แบบสีสัน หรือแบบวิ๊งวั๊ง ก็มีให้เลือกหมด
บอกเลยว่าปราบปลื้มมากๆ
เล็บบางๆ อ่อนแรงๆ ก็เข้มแข็งขึ้นมาได้ด้วยเจ้านี่นี่แหละ 

และนี่คือ โฉมหน้าของการทาเล็บด้วยสีเจลในสไตล์ icepadie ค่าา


นี่คือการทำครั้งแรก เป็นการไล่สีจากสีธรรมชาติไปสู่ปลายเล็บสีทองเรืองรองระยิบระยับ ฟรุ้งฟริ้งมาก 
อยู่คู่เล็บยาวนานมาประมาณเดือนกว่าๆ ไม่มีการชำรุดเสียหายใดๆทั้งนั้น ดีมากกก...
แต่ด้วยความเบื่อ เลยไปทำใหม่อีกครั้ง ได้เป็นแบบนี้


อ้าวว เกือบเหมือนเดิมเลย แค่เปลี่ยนสีเท่านั้น 5555 อะไรอะ แอบงงตัวเองง
คือ จริงๆตอนแรกจะเป็นสีชมพูวิ้งๆธรรมดาๆเลยล่ะ (คือสีล่างๆ) แต่ทำเสดแล้วรู้สึกว่ามันไม่เท่ ธรรมดาเกินไป เลยรับไม่ได้ ขอให้เค้าช่วยเพิ่มวิ้งๆที่ปลายเล็บให้หน่อย ได้ออกมาเป็นเล็บแบบดังกล่าว
เหมือนคราวที่แล้วเลยจ้าาา 555


โดยทั้งหมดนี้ กรรมวิธีคร่าวๆของมันก็คือ
จะต้องทาน้ำยาอะไรก็ไม่รู้ที่เล็บก่อน (เออ ลืมถามน่ะ ><)
และก็ค่อยทาสีทาเล็บแบบเจลที่เราต้องการลงไป
จากนั้นพอเสร็จ 1 ข้างก็เอามือไปแหย่ในเครื่องอะไรไม่รู้ที่มีสีแสงสีฟ้าเหมือนเครื่องดักยุง (นึกออกไม๊ 555) ซึ่งถามแล้ว เค้าบอกว่ามันคือแสงอัลตร้าไวโอเล็ตอะไรซักอย่าง ที่ทำปฏิกริยากะยาทาเล็บนี้เท่านั้น โว้วว เท่จัง
แล้วพอเอามือออกมาปุ๊บบ มันก็จะแห้งทันที เฮ๊ยย อเมซิ่งอะ !!! 
หมดกังวลเรื่องการรอแห้ง การขูดขีด การเป็นรอย (ซึ่งเกิดขึ้นเปนประจำกับตัวข้าพเจ้า) ไปได้เลย.. เยี่ยม

สรุปข้อดี
1. เหมือนเคลือบอะคลิลิก เหมาะสำหรับคนเล็บอ่อนแอ (เล็บนะ หัวใจไม่เกี่ยว 5555)
2. มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่งเติมได้หลากหลายตามจินตนาการ
3. ราคากลางๆ เกือบจะแพงละ แต่ยัง อีกนิดเท่านั้น (ถ้าเทียบกับการต้องต่อเล็บ เคลือบเล็บ อะไรก็ตามที่ทำให้มันแข็งขึ้นน่ะนะ)
4. ทาสีอื่นทับได้ด้วยยยยยจ้าาาาา ล้างออกก็ยังสวยชวิ๊งงงเหมือนเดิมด้วยนะ อรั๊ยยยยย
5. ข้อนี้ให้ดาวด้วยเลย * แห้งง่าย แห้งชัวร์ เพราะต้องไปเข้าเครืองอบแสงสีฟ้าไง ไม่ต้องรอนาน ลุ้นนาน

แต่ !!!
ทุกอย่างย่อมมีข้อเสียจริงไม๊ ?
เพราะฉะนั้น มาถึงข้อเสียกันบ้าง
1. ราคาอาจจะแพงไปปะ ?
2. กรรมวิธีในการรื้อถอนออกนี้ก็ยากพอควร ต้องมีการใช้น้ำยาถอด และใช้ฟลอยห่อ และรอ และแกะออกมา และขูดออก และตะไบ และเล็ม และตกแต่งผิวหน้าเล็บ บลาๆๆ ผู้ใดใจไม่แข็ง อาจเกิดอาการเสียวระหว่างทำได้ และถ้าไปทำร้านที่ใจร้ายอาจมีการคิดค่าถอดเล็บด้วยรึป่าวก็ไม่รู้
3. อาจมีสารเคมีบางอย่างแฝงตัว ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร และอาจจะก่อเกิดผลอะไรยังไงในภายภาคหน้า ซึ่งเราก็ไม่รู้อีก แต่ก็.. บอกเผื่อไว้ เพราะน่าจะต้องมีแน่ๆ ก็มันไม่ใช่ สีทาเล็บออแกนิกอะโน๊ะ
4. เลือกสียาก ตัดสินใจไม่ได้ (อันนี้ปัญหาส่วนตัวสุดๆ >< มีปัญหานี้ตลอด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุก 2 วิ ก็มันสวยไปหมดเลยนี่นาา. เลือกกยากกก !!!)


นั่นล่ะ คือทั้งหมดที่อยากจะกล่าวถึงในวันนี้ ^^
หวังว่าคงมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยน้าา (มีไม๊ ? ลุ้น 555)
ทั้งหมดนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ ร้าน sassy nails ชั้น 2 เดอะมอลล์ โคราชนะค๊าาา
ที่ไปทำที่นู่นเพราะบ้านอยู่ที่นู่นค่าา (ป๊าม๊าสปอนเซอร์ด้วย นี่คือประเด็น 5555 :P )
ใครมีร้านไหนแนะนำในกรุงเทพไม๊นะ ? ร้านที่เคยทำมันปิดตัวหนีหายไปน่ะ TT

ปล. ที่ไม่พูดถึงราคา เพราะคิดว่าแต่ละที่น่าจะไม่เท่ากันนะคะ เลยข้ามๆไปดีกว่า แหะ
ปล. มีคนบอกว่าน่าจะคลิปพูดเพราะขี้เกียจอ่าน.. หืมม เอางั้นหรออ ? ไม่เอาได้ไม๊อะ เขิน 555 เอ๊.. หรือว่ายังไงดี ? ใครมีความคิดเห็นว่าไงบ้าง ช่วยบอกได้ไม๊นะ ><? มันคอมเม้นทิ้งไว้ยากไม๊อ่าา ? (ไม่รู้ววว)
ปล. อยากได้คอมเม้นต์ติชม นู่นนี่จากทุกคนจริงๆนะ ^U^

ขอบคุณที่ติดตามค่าา
ไปละ บ๊ายบายยยย

padie
xxx

1.01.2557

hi 2014 ♥ hi icepadie blog ^U^

สวัสดีปีใหม่จ้าาาาาาาา ^^
ขอให้ทุกคนคึกคักสุดๆในปีม้านี้..

เข้าเรื่องเลยละกัน
โอ๊ยยยย ตื่นเต้นจัง ><
นี่คือการเขียนบล็อกครั้งแรกสิ่นะ
ก็... หลังจากที่อยากจะทำมานานนมนานน๊านนนานเป็นปีๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เริ่มซะที
จนกระทั่ง ตอนนี้ ที่รู้สึกว่าถึง "จุด" ที่จะต้องเริ่มเขียนได้แล้ว.. (ไม่งั้นก็ไม่ได้เริ่มซะที)
ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ที่มันบ่มเพาะมาเรื่อยๆจนถึง "จุด" จุดนี้
หนึ่ง ความอยากที่พรั่งพรู คือ.. ต้องบอกเลยว่า พื้นฐานเป็นคนขี้เห่อ ขี้อวดและขี้ตื่นเต้น (มาก) 555 เวลามีอะไรใหม่ๆเลยอยากจะเห่ออยากจะอวดตลอดเวลา แหะๆ
สอง ข้อมูลที่เอ่อล้น (จากหน้าที่การงานที่ประจวบเหมาะพอดี) ทำให้อยาก "แชร์" หรือแบ่งปันสิ่งที่ได้ประสบพบเจอมาให้รู้เห็นโดยทั่วกัน
สาม แรงผลักดันและกำลังใจจากผู้คนรอบข้าง... อยู่ดีๆช่วงหลังๆมานี้ก็มีคนใกล้ตัวมาสนับสนุนให้ "ลอง" เขียนบล็อกกันใหญ่เลย ก็เลย... อะ ลองดูละกัน
สี่ รู้สึกว่าถ้าแค่ "อยาก" แล้วไม่ "ทำ" ซักที ก็คงไม่ได้ทำตลอดไป จึงคิดว่า ควรเริ่มจริงๆจังๆได้แล้ว. เอาล่ะ. งั้นเริ่ม !!!

เริ่มจากการทำความรู้จักกันก่อน..
สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อ ไอซ ^^ และมีอีกชื่อนึงด้วยคือ พาดี้ padie อันนี้เกิดจากความกระแดะของตัวเองล้วนๆ คือตั้งขึ้นมาเอง โดยมีความเกี่ยวข้องนิ๊ดดดหน่อยกะชื่อจริงๆที่ชื่อ ภาวิดา... ภาวิดา พาดี้ ภาวิดา พาดี้ อะไรแบบนี้ (เห็นไม๊ว่าแทบไม่เกี่ยว เป็นความกระแดะล้วนๆ 555)

ตอนนี้เรียนจบมาได้จะปีนึงแล้วววว (โอ้วววว เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว TuT) จาก นิเทศ จุฬา :D
อายุกำลังจะ 23 ทำงานเป็น beauty writer อยู่ที่นิตยสาร l'officiel (เลยได้พบเจอข้าวของเกี่ยวกับความงามมากมายแบบมหาศาลน่ะ)
และก็เปน oj ด้วยนะ (ก็คือดีเจนั่นแหละ) ที่คลื่นออนไลน์ oh e chic radio (ไปฟังกันได้ แหะๆ)
หลักๆก็มีแค่นี้..
อ้ออ แล้วก็เป็น makeup artist ด้วยย อันนี้จริงจังสุด คืออาชีพในฝัน !!! รับแต่งหน้าทุกอย่างเลย สามารถเรียกหาได้ สะดวกเสมอถ้าเวลาเอื้ออำนวย รับปริญญา แต่งงาน งานแต่ง งานสังสรรค์ หรืออยากสวยเฉยๆก็ได้หมด เย่


อะ รู้จักกันพอสังเขป
วันนี้ก็จะเอาวีดีโอฮาวทู "everyday look" มาฝากกัน






ที่ชื่อว่าเอฟรี่เดย์ลุคก็เพราะ คิดว่าลุคนี้เป็นสีกลางๆที่สามารถเข้ากันได้กับหลายๆอย่าง เลยทำให้สามารถใช้แต่งได้ในทุกๆวัน (โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ตื่นมาก็แต่งเลย)
คิดว่าทุกคนน่าจะสามารถเอาไปแต่งตามได้จริง เพราะพาเลตหลักๆที่ใช้ก็คือ NAKED2 (ที่ตอนนี้กำลังจะ out ไปแล้ว เพราะว่ามี NAKED3 ออกมาแล้วววว โอ่มม่ายยยยยยย อยากได้ๆๆๆๆๆๆ จะเอาๆๆๆๆๆๆ >< !!!!! )
เอาหล่ะ ก็ตามนั้น. และที่จริงคือคลิปนี้ทำมานานมากแล้วด้วยตั้งแต่เดือนเมษา แต่ก็.. อยากโพสอีกทีนี่นา เอาฤกษ์เอาชัยช่วงปีใหม่น่ะ 555 และก็จริงๆคลิปนี้มันมีปัญหาคือดูในมือถือไม่ได้... แล้วก็แก้ไม่เปนด้วยไง เฮอออ เอาล่ะ จบเหอะ
เอาเปนว่า เร็วๆนี้ เร็วๆมากๆจะมีคลิปใหม่ออกมาแน่นอน ขอดูฟีดแบ็คจากคลิปนี้ก่อนละกันว่าจะเปนยังไงเนอะ ^^


สุดท้ายนี้ ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขมากๆในปี 2014 นี้นะคะ
แล้วอย่าลืมติดตาม blog นี้ด้วย ปีนี้ตั้งใจว่าเขียนจริงๆนะ ฝากด้วยค่าาา
บ๊ายยบายย

padie
xxx