2.21.2558

ไปเกาหลี KOREA Trip by Neuronox

ฮาโหลลล อันยองฮาเซโย ~
คิดถึงกันไม๊ ไม่ได้อัพบล็อกมาเป็นชาติ ฮ่าาๆๆ
วันนี้ไอซจะมาเล่าประสบการณ์ "เดินทางไปเกาหลี กับ NEURONOX"
เมื่อปลายเดือนมกราที่ผ่านมาให้ฟังกันค่า ^0^
บอกเลยว่านี่คือ ครั้งแรกที่ไอซไปเกาหลี เลยตื่นเต้นฝุดๆ เพราะอยากไปมากๆ



ก่อนอื่นต้องของเกริ่นก่อนเลยว่าทริปเกาหลีครั้งนี้เนี่ย 
ไอซไปกะ NEURONOX ค่ะ
อ๊ะ! งงล่ะสิ่ว่าคืออะไร? 
NEURONOX คือ บริษัทผลิตสาร Botulinum Toxin 
หรือที่ทุกคนเข้าใจว่ามันคือ BOTOX เกาหลี
ซึ่งจริงๆแล้ว BOTOX อะ คือ ชื่อ ยี่ห้อ ตัวสารจริงๆคือ Botulinum Toxin
และเจ้า Botulinum Toxin แหละที่ช่วยให้หน้าตึง ริ้วรอยหาย กลายเป็นตึงเป๊ะ! 
งงยัง? อย่าพึ่งงนะ ยกตัวอย่าง 
มาม่า (ยี่ห้อ) = บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ไวไว (ยี่ห้อ) = บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เช่นเดียวกัน
NEURONOX (ยี่ห้อ) = Botulinum Toxin
BOTOX (ยี่ห้อ) = Botulinum Toxin
เข้าใจแล้วใช่ม๊ายยยยยย :D
 =
 =

นั่นคือ 1 อย่างสำคัญที่ได้รู้จากทริปนี้
และไอซก็ได้รู้ว่าสารตั้งต้นที่ใช้ทำ Botulinum Toxin 
ของ NEURONOX กับ BOTOXนั้นคือตัวเดียวกันเลย 
แปลว่า ผลลัพธ์ที่ได้ของมันคือ "เหมือนกันเป๊ะ”
(แต่ราคาต่างครึ่ง/ครึ่ง NEURONOX ~6000 BOTOX ~12000 )
และได้ไปเดินดูโรงงานผลิตของเค้าด้วย ชื่อบริษัทของเค้าคือ Medytox
บอกเลยว่าข้างในนี้แบบว่า ตรวจมาตรฐานกันแบบถี่ยิบ คุมเข้มแบบสุดๆ
พิถิพิถันหลายขั้นตอนมากๆ เอาเป็นว่าผ่านมาตรฐานไอซ 555


แล้วก็ได้มีโอกาสพูดคุย 
(อย่างเป็นกันเอง >> ในร้านหมูย่างเกาหลีและผับใจกลางกังนัม) 
กับ CEO ของบริษัท และ Distributor ผู้นำเข้ามาจัดจำหน่ายในไทย


ทราบว่าบริษัทคือเก่งมาก สามารถคิดค้นสูตรทำ Botulinum Toxin 
แบบน้ำได้เป็นเจ้าแรก จน BOTOX อันโด่งดังมาซื้อลิขสิทธิ์ไป...
อะ จบข้อมูลคร่าวๆไว้เพียงเท่านี้ ติดตามยาวๆได้อีกใน Wongnai Beauty น้า หุหุ


มาถึง part การท่องเที่ยวสไตล์สาวแอ๊วแบบเราบ้างง
คือจริงๆก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมากหรอก 
เพราะวันแรกก็ไปทัวร์โรงงาน
วันที่ 2 ไปทัวร์คลินิก และ วันที่ 3 ก็กลับและ
ถึงแม้... จะฟังดูเหมือนมีเวลาเพียงน้อยนิด 
แต่เราก็ได้ไปเที่ยวหลายที่เหมือนกัน
เริ่มไปทีละวันเลยละกัน...

วันแรก หลังจากทัวร์โรงงานก็กลับมาที่พัก 
แล้วออกไปทานหมูย่างเกาหลีในแบบฉบับต้นตำรับของแท้
พร้อมรับการ entertain จากหนุ่มๆชาวเกาหลี 
ผู้ซึ่งพูดเป็นคำเดียวคือ “หมดแก้ว” 555
งานนี้ก็ยับกันไปเป็นแถว โชคดีที่ออกตัวว่าไม่กินแอลตั้งแต่แรก รอด!

คือหมูมันมากกกกกส์ แต่ย่างมาแล้วน่ากินมากก สุดท้ายก็ซัดเรียบ!


บรรยากาศหนุกหนานจนหนุ่มๆและผู้บริหารพาไปต่อที่ ผับดังย่านกังนัม (ชื่อไรไม่รู้)
ซึ่งบรรยากาศไม่เหมือนที่คิดไว้เลยแฮะ ไม่มีเต้น ไม่มียืนเบียดเสียด
ทุกคนนั่งเป็นโต๊ะเหมือนว่านั่งคุยธุรกิจ... อ่อออ นี่สิ่นะ โอปป้า กังนัมสไตล์


จบคืนที่หนึ่ง กลับโรงแรม นอนหลับคร่อกฟี่ ~


วันที่ สอง 
หลังจากไปทัวร์คลินิกอัพเดทเทรนด์ความงามสไตล์เกาหลี
(ได้ความว่าทุกวันนี้ศัลยกรรมทุกวันนี้เป็นเพื่อความสวยงาม 
มากกว่าการชะลอความชรา
และสาร Botulinum Toxin ฮ็อตฮิตมาก 
มีข้อดีหลากหลาย สามารถใช้ไปได้ทั่วร่างกายเลย
เช่น ทำให้คอดูระหงขึ้น ขาดูเล็กลง รอยย่นที่หน้าหายไป เป็นต้น )


เสร็จแล้วก็มีเวลาให้เราได้ไปผลาญเงินที่เมียงดง
อื้อหือออออ ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานาน พึ่งเคยมาเหยียบเยือนเป็นครั้งแรก
พูดเลยว่า “เวลา” ช็อปนานเท่าไหร่ก็คงไม่พอ และที่ไม่พอมากกว่าเวลาก็คือ “เงิน”
โอ้ยย คุณแม่คุณเจ้า มันหลากหลายแบรนด์เหลือเกิน แต่ละแบรนด์ก็ถู๊กถูก 
(กว่าที่ไทยเยอะ)
หรือถ้าแบรนด์ไหนไม่มีที่ไทยก็น่าใช้ซะเหลือเกิน แหม๊.. โดนไปสิ่ครัช
ซื้อมาแบบมากมายมหาศาล ทั้งเอามาใช้เอามาลอง 
และเอามา giveaway ในเพจ PADIE กะ Wongnai Beauty อิอิ ลองติดตามกันดูนะ
คือเอาเป็นว่า แค่เข้าร้านเครื่องสำอางก็หมดเวลาไม่ได้ไปช็อปอย่างอื่นเลย
ของที่ได้มาก็...


 

ไม่มากมายเท่าไหร่ (เหรอออออออออออ !?!?)
และเราก็ไปจบวันด้วยการไปชมวิวสวยๆ ที่ Seoul Tower



จังหวะพี่พูดเลยว่า "หนาวมาก” ยิ่งไม่มีคู่ยิ่งหนาวขึ้นไปอีก (ฮะ เกี่ยวไม๊)

แล้วก็มาดินเนอร์เก๋ๆ แบบบุฟเฟ่ต์อิ่มเว่อร์ บนยอดตึก อู๊วว ~
คือบรรายากาศดีมาก โรแมนติกมาก มากะแฟนนี่สวีทสุดๆ วิวสวยๆ
อาหารก็อร่อยสุดๆด้วยเช่นกัน


และยังไม่จบ เราไปต่อกันที่ย่าน... อะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ 555 
แต่เค้าว่าเป็นเหมือน platinum บ้านเรา คือเหมือนมากจริงๆ
แต่ของในนั้นก็จะเป็นของเครื่องหนาว ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง
ซึ่งไม่ได้ซื้ออะไรเลย เพราะประเทศไทยไม่มีโอกาสจะได้ใส่อะไรแบบนี้แน่นอน หึหึ

จบคืนที่ 2 นอนหลับคร่อกฟี่ ~

วันสุดท้าย ช็อปปิ้งยังไม่พอ เรามาช็อปกันต่ออีกที่ Mall อะไรซักอย่าง 
จำชื่อไม่ไ่ด้อีกแล้ว TuT
feel เหมือนโลตัส บิ๊กซี หรืออะไรเทือกๆนี้ 
เพราะพวกเราอยากจะมาซื้อสตรอเบอร์รี่กันน่ะ
ก็.. ได้ดั่งใจค่ะ ซื้อมากันเสมือนหนึ่งชีวิตนี้ไม่เคยเห็นสตรอเบอร์รี่มาก่อน 555
ความเศร้าคือ “ ไม่ มี ถุง “
เอิ่ม เงิบสิครับงานนี้ ปกติพี่ไทยเรามีถุงทุกไซส์บริการเสมอ มานี่ ไม่มี ต้องซื้อ
แถมซื้อแล้วไซส์ก็ไม่ได้อีก เอ่อะ ก็เลยต้อง “ประดิษฐ์” ลังให้เป็นบรรจุภัณฑ์กันเอง
บอกเลยว่าสนุกมากก 555 เหมือนอยู่ในชั่วโมงงานประดิษฐ์ โชว์ผลงาน...



งานช็อปยังไม่จบ เราไปช็อปกันต่อที่อินซาดงด้วย
ไอซได้เสื้อกั๊กขนมุ้งมิ้งมาด้วย 1 ตัว ราคาเพียง 300 บาทเท่านั้น OMG ถูกมั่ก



หลังจากช็อปปิ้งอย่างบ้าคลั่ง
สภาพตอนบินกลับนี่บั่บว่าา อื้อหือ อีบ้าหอบฟางสุดๆ
ต้องหอบหิ้วทุกสรรพสิ่ง พร้อมเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ที่ใส่กระเป๋าไม่ลงกลับมาด้วย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า กระเป๋าต้องใหญ่กว่านี้ !?!?!?!

จบค่ะ จบแล้ววว นี่แหละ ประสบการณ์ท่องเที่ยว ณ แดนกิมจิของไอซ
บอกเลยว่าสนุกมากๆเลยแหละ ^^ 
ขอบคุณพี่จูนพี่ใหม่ ที่ดูแลเป็นอย่างดี และพี่พี่ที่น่ารักที่ร่วมทริปด้วยกันทุกคนนะค๊ะ 


และขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วยค่า (จะมีซักคนไม๊ฮึ 5555)
ถ้ามี... รักนะ จุ๊บๆ <3 <3 <3


อ่านแล้วคอมเม้นพูดคุยกะไอซได้น้าา อ่านแล้วจากไปเลย เก๊าเหงา ><

WB link : ฝาแฝด Botox! Neuronox ฉีดหน้าเรียว ตึง เป๊ะ ของถูกและดีจากเกาหลี !!!