1.19.2557

NEW LOOK !!!


สวัสดีจ้าาาา ^0^
วันนี้เราแบบสั้นๆเพื่อที่จะโชว์ "ลุคใหม่" วู้ฮู้วววววววว
คือ.. ไปตัดผมมา
เนื่องด้วยแบบว่าไว้ผมยาวมานานมากกกก พอจะตัดก็เลยเสียดาย เลยคิดว่าถ้าจะตัดทั้งทีเนี่ยต้องมีประโยชน์นะ
ก็เลยเป็นที่มาของการ "ตัดผมบริจาค" (ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง :)
ก็.. นั่นแหละ พอมีความตั้งใจดังนั้นก็เลยต้องสะสมผม (ให้มันยาวซักหน่อยน่ะ)
และพอมันยาวมากๆๆๆก็เริ่มถึงจุดที่มันทนไม่ไหวละ 
โอ่ยยย ยาวเกิ๊นนน จะทำอะไรก็ลำบาก มัดผมยางก็ขาด สระทีก็กว่าจะแห้ง (ซึ่งสระทุกวันด้วยนะ o_O)
เลยตัดสินใจว่า ตัดวันนี้เลยแล้วกัน !!!
ซึ่งปกติแล้วนั้น ไม่มีร้านประจำ เพราะไม่ค่อยเปลี่ยนลุคเท่าไหร่ จะเข้าร้านก็แค่แค่เล็มๆปลายผมให้มันไม่ยาวเกินไปเฉยๆ ไม่ต้องใช้ทักษะอะไร ไม่ต้องลุ้นมาก
พอมาวันนี้ที่อยากตัดแบบจริงจัง ก็เลยต้อง แรนด้อมร้านเอา..
(นี่คือ สภาพก่อนการตัดผม.. ยาวววววเชียะ)



สรุปคือ ตกลงปลงใจมาที่ร้าน MOGA @ the emporium (เพราะมาดูหนังพอดี และเดินผ่านร้านพอดี)
เป็นร้านตัดผมสไตล์ญี่ปุ่น มีคนญี่ปุ่นเป็นช่างด้วยนะ
ก็ไม่อะไรมาก เดินดุ่มๆๆเข้าไปในร้านเลย เพราะรู้สึกว่าชื่อร้านคุ้นๆ น่าจะดี
พนักงานที่นี่ก็ดีนะ ต้อนรับขับสู้ไปตามประสา แล้วเราก็ถูกส่งตัวไปนอนสระผมเลยย
เฮ้ยย มันเป็นน้ำอุ่นด้วยอ๊าาาา ตื่นเต้น 555
แล้วก็มีผ้าอะไรไม่รู้มาวางแหมะไว้ที่หน้าด้วย 
(คิดเองว่าน่าจะเป็นการบังแสง ให้มืดๆ จะได้ผ่อนคลาย.. ไม๊ ? ใช่ไม๊นะ ?)
ซึ่งสุดท้ายไอผ้านี้ก็กลายมาเป็นผ้าเช็ดผมเราในที่สุด (เอ๊ะหรือหน้าเราเป็นแค่ที่วางผ้า !?!?)



ช่างที่ตัดให้ไอซคราวนี้ชื่อว่า พี่แป้ง (ไม่ใช่คนในรูป พี่คนนี้คือคนสระผมให้ :3 )
เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่แอบเท่ๆ และก็ดูใจดี แหะๆ
สอบถามได้ใจความว่า พี่เค้าตัดผมมาแล้ว 13 ปี (โอ๊... ใจชื้นขึ้นมาหน่อยยนะ 555)
ตอนแรกกะๆไว้ว่าจะเอาความยาวซักประมาณแบาเลยๆไหล่ลงมา ตรงไหปลาร้าาไรงี้ แต่ไปๆมาๆ ยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยเผลอพลั้งปากพูดไปว่า แล้วแต่พี่เลยแล้วกันค่ะ เอาให้สวยก็พอ... เท่านั้นแหละ
"ฉับ" ต้นคอเลยจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา !!!
โอ้วว ม่ายยยย ช็อกไป 20 วิ...
คือ สั้นมากกกกก โอ้วมายยยก็อดดดดดด นี่คือเรียกว่าสั้นนะ สั้นอะ
มองหน้าตัวเองแล้วไม่คุ้นเลย หน้าเปลี่ยนไป และจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ชินตัวเองอยู่ดี หึหึ
(คุณพี่เสื้อขาว ผมประกายแดงคนนี้ล่ะ คือ พี่แป้ง มือเฉือนผม)



แต่ก็ดีน้าาา พอตัดไปตัดมาให้มันกลายเป็นทรง สุดท้ายมันก็ออกมาดีน่ะ 
แค่ไม่ชินกับความยาวที่เปลี่ยนไปอย่างมหาศาลแค่นั้นเอง
ในใจก็คิดไปว่า "เอาหน่าาา ผมยังไงก็ยาวใหม่ได้ ทำบุญๆๆๆๆๆๆ"
แต่ก็ช็อกจริงงง  ไว้ผมยาวมาประมาณ 6 ปีอะ ไม่เคยสั้นเลยย พอสั้นปึ๊บบใจก็หายเป็น ธรรมดา
อะ และนี่คือ ลุคใหม่ที่ได้มาจ้าาาาาาา



เปรี้ยวเลยย..
พึ่งรู้ว่า นี่แหละที่ผ่านมาท่ีคนชอบบอกว่าหน้าหวาน...  พึ่งเข้าใจวันนี้เลยนะเนี่ย
เพราะตอนนี้ไม่หวานเลย เปรี้ยวมวากกกกกก
เฮออออ ไม่เข้ากะชุดเสื้อผ้าที่มีอยู่เล๊ยยยยยย TuT
เอาน่ะ เปลี่ยนซะมั่งเนอะ หึหึ

วันนี้จบแล้ว แค่นี้แหละ แหะๆ บ๊ายบายยย ^u^



ปล. ใครทราบที่บริจาคเส้นผมแบบที่จะได้เอาไปใช้ประโยชน์จริงๆ ช่วยบอกกันหน่อยนะคะๆ ><

 

1.04.2557

happy new nails !!!

ฮี่ๆ นอกจากช่วงจะแฮปปี้นิวเยียแล้ววว เรายังแฮปปี้นิวเนลส์อีกด้วย >U<
เรื่องก็คือว่า (เฮ๊ย มีเรื่องด้วยหรอ ?!?!) 
ก็คือว่า หลังจากห่างหายวงการทำเล็บไปนาน (เคยบ้ามาตอนอยู่ปี 2 น่ะนะ ทำบ่อยเหลื๊อเกิน บ่อยจนเอาเงินไปดาวน์บ้านได้เลยมั๊ง... เพราะต้องกระแดะต้องเข้าร้านด้วยนะ ทาเองไม่ได้เลอะเทอะเละเทะตลอดดดดดด แต่ถึงเข้าร้านก็ยังทำเละได้อยู่ดี เช่น ยังแห้งไม่สนิทท่าไหนไม่รู้ นอนหลับไป ตื่นเช้ามาเป็นเล็บลายผ้าปูที่นอน อะร๊ายยย TuT)
และเล็บของไอซนี้ก็ช่างบอบบางเหลือเกิน เอะอะขาดเอะอะฉีกอยั่งกะเป็นกระดาษ โดยเฉพาะเวลาสระผมนะ อื้อหือ นึกว่าผมเป็นคัตเตอร์ เล็บขาดตลอด เซง !!!

(เข้าเรื่อง) ก็เลยได้หวนคืนวงการอีกครั้งด้วยการทาเล็บแบบ "สีเจล" ทาดาาาาาา !!!

มันก็ไม่ใหม่หรอกกก เข้าใจ 
มันมานานแล้ว ตื่นเต้นกันมานานแล้วว เข้าจายย
แต่... ก็คนมันพึ่งเคยทำอ๊ะ ><
อยากมาขอตื่นเต้นนิสนึง พร้อมยืนยันว่ามันดีจริงอะไรจริงนะเนี่ย !!!
คืออออ มันจะไปเคลือบเล็บ (บางๆ) ของเราให้หนาขึ้น ประดุจหนึ่งว่าต่ออะคริลิคเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะ เปนแค่ยาทาเล็บ
และมันก็สามารถทาสีทาเล็บอื่นๆทับลงไปได้ โดยที่เวลาล้างออกแล้วก็ยังเปนสีเจลนั้นๆอยู่เหมือนเดิมด้วย !!! โอ้ว แม่เจ้าจ๊อชชชช นี่ไง มันก็คือเหมือนการเคลือบอะคริลิกดีๆนี่เอง จริงๆนะ (ตอนที่เคยทำมันเวิร์คมาก นี่ก็เลยดูเหมือนจะเวิร์คกว่าด้วย เพราะถูกกว่าาา อาจจะไม่มาก แต่ก็ถูกกว่าอะนะ)
นอกจากนี้ มันก็ยังมีสีให้เลือกมากมายยยยย จนเลือกไม่ถูก :3 (อันนี้แล้วแต่ร้าน) แบบสีสัน หรือแบบวิ๊งวั๊ง ก็มีให้เลือกหมด
บอกเลยว่าปราบปลื้มมากๆ
เล็บบางๆ อ่อนแรงๆ ก็เข้มแข็งขึ้นมาได้ด้วยเจ้านี่นี่แหละ 

และนี่คือ โฉมหน้าของการทาเล็บด้วยสีเจลในสไตล์ icepadie ค่าา


นี่คือการทำครั้งแรก เป็นการไล่สีจากสีธรรมชาติไปสู่ปลายเล็บสีทองเรืองรองระยิบระยับ ฟรุ้งฟริ้งมาก 
อยู่คู่เล็บยาวนานมาประมาณเดือนกว่าๆ ไม่มีการชำรุดเสียหายใดๆทั้งนั้น ดีมากกก...
แต่ด้วยความเบื่อ เลยไปทำใหม่อีกครั้ง ได้เป็นแบบนี้


อ้าวว เกือบเหมือนเดิมเลย แค่เปลี่ยนสีเท่านั้น 5555 อะไรอะ แอบงงตัวเองง
คือ จริงๆตอนแรกจะเป็นสีชมพูวิ้งๆธรรมดาๆเลยล่ะ (คือสีล่างๆ) แต่ทำเสดแล้วรู้สึกว่ามันไม่เท่ ธรรมดาเกินไป เลยรับไม่ได้ ขอให้เค้าช่วยเพิ่มวิ้งๆที่ปลายเล็บให้หน่อย ได้ออกมาเป็นเล็บแบบดังกล่าว
เหมือนคราวที่แล้วเลยจ้าาา 555


โดยทั้งหมดนี้ กรรมวิธีคร่าวๆของมันก็คือ
จะต้องทาน้ำยาอะไรก็ไม่รู้ที่เล็บก่อน (เออ ลืมถามน่ะ ><)
และก็ค่อยทาสีทาเล็บแบบเจลที่เราต้องการลงไป
จากนั้นพอเสร็จ 1 ข้างก็เอามือไปแหย่ในเครื่องอะไรไม่รู้ที่มีสีแสงสีฟ้าเหมือนเครื่องดักยุง (นึกออกไม๊ 555) ซึ่งถามแล้ว เค้าบอกว่ามันคือแสงอัลตร้าไวโอเล็ตอะไรซักอย่าง ที่ทำปฏิกริยากะยาทาเล็บนี้เท่านั้น โว้วว เท่จัง
แล้วพอเอามือออกมาปุ๊บบ มันก็จะแห้งทันที เฮ๊ยย อเมซิ่งอะ !!! 
หมดกังวลเรื่องการรอแห้ง การขูดขีด การเป็นรอย (ซึ่งเกิดขึ้นเปนประจำกับตัวข้าพเจ้า) ไปได้เลย.. เยี่ยม

สรุปข้อดี
1. เหมือนเคลือบอะคลิลิก เหมาะสำหรับคนเล็บอ่อนแอ (เล็บนะ หัวใจไม่เกี่ยว 5555)
2. มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่งเติมได้หลากหลายตามจินตนาการ
3. ราคากลางๆ เกือบจะแพงละ แต่ยัง อีกนิดเท่านั้น (ถ้าเทียบกับการต้องต่อเล็บ เคลือบเล็บ อะไรก็ตามที่ทำให้มันแข็งขึ้นน่ะนะ)
4. ทาสีอื่นทับได้ด้วยยยยยจ้าาาาา ล้างออกก็ยังสวยชวิ๊งงงเหมือนเดิมด้วยนะ อรั๊ยยยยย
5. ข้อนี้ให้ดาวด้วยเลย * แห้งง่าย แห้งชัวร์ เพราะต้องไปเข้าเครืองอบแสงสีฟ้าไง ไม่ต้องรอนาน ลุ้นนาน

แต่ !!!
ทุกอย่างย่อมมีข้อเสียจริงไม๊ ?
เพราะฉะนั้น มาถึงข้อเสียกันบ้าง
1. ราคาอาจจะแพงไปปะ ?
2. กรรมวิธีในการรื้อถอนออกนี้ก็ยากพอควร ต้องมีการใช้น้ำยาถอด และใช้ฟลอยห่อ และรอ และแกะออกมา และขูดออก และตะไบ และเล็ม และตกแต่งผิวหน้าเล็บ บลาๆๆ ผู้ใดใจไม่แข็ง อาจเกิดอาการเสียวระหว่างทำได้ และถ้าไปทำร้านที่ใจร้ายอาจมีการคิดค่าถอดเล็บด้วยรึป่าวก็ไม่รู้
3. อาจมีสารเคมีบางอย่างแฝงตัว ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร และอาจจะก่อเกิดผลอะไรยังไงในภายภาคหน้า ซึ่งเราก็ไม่รู้อีก แต่ก็.. บอกเผื่อไว้ เพราะน่าจะต้องมีแน่ๆ ก็มันไม่ใช่ สีทาเล็บออแกนิกอะโน๊ะ
4. เลือกสียาก ตัดสินใจไม่ได้ (อันนี้ปัญหาส่วนตัวสุดๆ >< มีปัญหานี้ตลอด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุก 2 วิ ก็มันสวยไปหมดเลยนี่นาา. เลือกกยากกก !!!)


นั่นล่ะ คือทั้งหมดที่อยากจะกล่าวถึงในวันนี้ ^^
หวังว่าคงมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยน้าา (มีไม๊ ? ลุ้น 555)
ทั้งหมดนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ ร้าน sassy nails ชั้น 2 เดอะมอลล์ โคราชนะค๊าาา
ที่ไปทำที่นู่นเพราะบ้านอยู่ที่นู่นค่าา (ป๊าม๊าสปอนเซอร์ด้วย นี่คือประเด็น 5555 :P )
ใครมีร้านไหนแนะนำในกรุงเทพไม๊นะ ? ร้านที่เคยทำมันปิดตัวหนีหายไปน่ะ TT

ปล. ที่ไม่พูดถึงราคา เพราะคิดว่าแต่ละที่น่าจะไม่เท่ากันนะคะ เลยข้ามๆไปดีกว่า แหะ
ปล. มีคนบอกว่าน่าจะคลิปพูดเพราะขี้เกียจอ่าน.. หืมม เอางั้นหรออ ? ไม่เอาได้ไม๊อะ เขิน 555 เอ๊.. หรือว่ายังไงดี ? ใครมีความคิดเห็นว่าไงบ้าง ช่วยบอกได้ไม๊นะ ><? มันคอมเม้นทิ้งไว้ยากไม๊อ่าา ? (ไม่รู้ววว)
ปล. อยากได้คอมเม้นต์ติชม นู่นนี่จากทุกคนจริงๆนะ ^U^

ขอบคุณที่ติดตามค่าา
ไปละ บ๊ายบายยยย

padie
xxx

1.01.2557

hi 2014 ♥ hi icepadie blog ^U^

สวัสดีปีใหม่จ้าาาาาาาา ^^
ขอให้ทุกคนคึกคักสุดๆในปีม้านี้..

เข้าเรื่องเลยละกัน
โอ๊ยยยย ตื่นเต้นจัง ><
นี่คือการเขียนบล็อกครั้งแรกสิ่นะ
ก็... หลังจากที่อยากจะทำมานานนมนานน๊านนนานเป็นปีๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เริ่มซะที
จนกระทั่ง ตอนนี้ ที่รู้สึกว่าถึง "จุด" ที่จะต้องเริ่มเขียนได้แล้ว.. (ไม่งั้นก็ไม่ได้เริ่มซะที)
ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ที่มันบ่มเพาะมาเรื่อยๆจนถึง "จุด" จุดนี้
หนึ่ง ความอยากที่พรั่งพรู คือ.. ต้องบอกเลยว่า พื้นฐานเป็นคนขี้เห่อ ขี้อวดและขี้ตื่นเต้น (มาก) 555 เวลามีอะไรใหม่ๆเลยอยากจะเห่ออยากจะอวดตลอดเวลา แหะๆ
สอง ข้อมูลที่เอ่อล้น (จากหน้าที่การงานที่ประจวบเหมาะพอดี) ทำให้อยาก "แชร์" หรือแบ่งปันสิ่งที่ได้ประสบพบเจอมาให้รู้เห็นโดยทั่วกัน
สาม แรงผลักดันและกำลังใจจากผู้คนรอบข้าง... อยู่ดีๆช่วงหลังๆมานี้ก็มีคนใกล้ตัวมาสนับสนุนให้ "ลอง" เขียนบล็อกกันใหญ่เลย ก็เลย... อะ ลองดูละกัน
สี่ รู้สึกว่าถ้าแค่ "อยาก" แล้วไม่ "ทำ" ซักที ก็คงไม่ได้ทำตลอดไป จึงคิดว่า ควรเริ่มจริงๆจังๆได้แล้ว. เอาล่ะ. งั้นเริ่ม !!!

เริ่มจากการทำความรู้จักกันก่อน..
สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อ ไอซ ^^ และมีอีกชื่อนึงด้วยคือ พาดี้ padie อันนี้เกิดจากความกระแดะของตัวเองล้วนๆ คือตั้งขึ้นมาเอง โดยมีความเกี่ยวข้องนิ๊ดดดหน่อยกะชื่อจริงๆที่ชื่อ ภาวิดา... ภาวิดา พาดี้ ภาวิดา พาดี้ อะไรแบบนี้ (เห็นไม๊ว่าแทบไม่เกี่ยว เป็นความกระแดะล้วนๆ 555)

ตอนนี้เรียนจบมาได้จะปีนึงแล้วววว (โอ้วววว เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว TuT) จาก นิเทศ จุฬา :D
อายุกำลังจะ 23 ทำงานเป็น beauty writer อยู่ที่นิตยสาร l'officiel (เลยได้พบเจอข้าวของเกี่ยวกับความงามมากมายแบบมหาศาลน่ะ)
และก็เปน oj ด้วยนะ (ก็คือดีเจนั่นแหละ) ที่คลื่นออนไลน์ oh e chic radio (ไปฟังกันได้ แหะๆ)
หลักๆก็มีแค่นี้..
อ้ออ แล้วก็เป็น makeup artist ด้วยย อันนี้จริงจังสุด คืออาชีพในฝัน !!! รับแต่งหน้าทุกอย่างเลย สามารถเรียกหาได้ สะดวกเสมอถ้าเวลาเอื้ออำนวย รับปริญญา แต่งงาน งานแต่ง งานสังสรรค์ หรืออยากสวยเฉยๆก็ได้หมด เย่


อะ รู้จักกันพอสังเขป
วันนี้ก็จะเอาวีดีโอฮาวทู "everyday look" มาฝากกัน






ที่ชื่อว่าเอฟรี่เดย์ลุคก็เพราะ คิดว่าลุคนี้เป็นสีกลางๆที่สามารถเข้ากันได้กับหลายๆอย่าง เลยทำให้สามารถใช้แต่งได้ในทุกๆวัน (โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ตื่นมาก็แต่งเลย)
คิดว่าทุกคนน่าจะสามารถเอาไปแต่งตามได้จริง เพราะพาเลตหลักๆที่ใช้ก็คือ NAKED2 (ที่ตอนนี้กำลังจะ out ไปแล้ว เพราะว่ามี NAKED3 ออกมาแล้วววว โอ่มม่ายยยยยยย อยากได้ๆๆๆๆๆๆ จะเอาๆๆๆๆๆๆ >< !!!!! )
เอาหล่ะ ก็ตามนั้น. และที่จริงคือคลิปนี้ทำมานานมากแล้วด้วยตั้งแต่เดือนเมษา แต่ก็.. อยากโพสอีกทีนี่นา เอาฤกษ์เอาชัยช่วงปีใหม่น่ะ 555 และก็จริงๆคลิปนี้มันมีปัญหาคือดูในมือถือไม่ได้... แล้วก็แก้ไม่เปนด้วยไง เฮอออ เอาล่ะ จบเหอะ
เอาเปนว่า เร็วๆนี้ เร็วๆมากๆจะมีคลิปใหม่ออกมาแน่นอน ขอดูฟีดแบ็คจากคลิปนี้ก่อนละกันว่าจะเปนยังไงเนอะ ^^


สุดท้ายนี้ ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขมากๆในปี 2014 นี้นะคะ
แล้วอย่าลืมติดตาม blog นี้ด้วย ปีนี้ตั้งใจว่าเขียนจริงๆนะ ฝากด้วยค่าาา
บ๊ายยบายย

padie
xxx